by พงศ์มนัส บุศยประทีป
วันนี้ไม่ได้มาคุยถึงว่านางแบบต้องทำหน้า Strong แบบที่พี่ลูกเกดย้ำนะครับ แต่จะมาคุยว่าทำไมรายการนี้ถึงต้อง “แรง” แรงคือทำไมพิธีกรถึงต้องดุ ทำไมถึงต้องมีการเหน็บแนมจิกกัดกัน พูดเยาะเย้ยถากถาง ประชดประชัน ต่อหน้าตอนนั่งด้วยกันยิ้ม ลับหลังก็พูดเสียดสี แม้แต่กรรมการบางตอนก็ถึงขั้นพูดจารุนแรงจนแทบสะอึก ทำไมนะทำไม... ตอนที่ผมดูครั้งแรกๆ ผมนึกในใจว่า “คุยกันดีๆ ไม่เป็นหรือวะ” แต่พอมาดูเอง แล้วก็ทำให้รู้คำตอบว่าเพราะมันทำให้ดัง ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์กันก่อน คือมนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม คืออยู่คนเดียวไม่ได้ เราต้องอยู่เป็นกลุ่ม แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกทั้งโลกคือมนุษย์กลุ่มเดียวกันนะครับ เราค่อยๆ พัฒนามาจากกลุ่มเล็กๆ ครอบครัว หมู่บ้าน ไปจนถึงอาณาจักร ประเทศ สหพันธ์ กลุ่มยิ่งขนาดเล็ก เราก็จะยิ่งรู้สึกว่าเราผูกพัน ใครในกลุ่มได้ดีก็ดีใจ ใครมาร้ายใส่กลุ่มเราเราก็โกรธ ประเด็นคือ มนุษย์นั้นชอบจัดสรรตัวเองให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มโดยอัตโนมัติ ไม่ว่านั่นจะมีเหตุผลหรือไม่ก็ตาม ลองนึกถึงกีฬาสีโรงเรียนก็ได้ครับ สมัยเด็กๆ นี่อินกับสีตัวเอง จนทะเลาะกับเพื่อนสนิทที่อยู่คนละสีก็มี ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่กลุ่มสมมติ The Face นั้นเป็นรายการที่มีการแข่งขันเป็นทีม แต่ทีมที่ว่านั้นไม่ใช่เมนเทอร์และลูกทีมเท่านั้น แต่ทีมนั้นคือผู้ชมที่เชียร์ทีมที่ตัวเองชอบเป็นพิเศษด้วย สมมติว่าผมชอบลูกเกด ผมก็จะเป็น #ทีมลูกเกด (พยายามใช้ hashtag เพื่อให้ดูวัยรุ่น) ตามธรรมชาติของมนุษย์ เราจะไปอยู่ในกลุ่มลูกเกดไปด้วยครับ ถึงแม้ผมจะไม่ใช่นางแบบที่ไปแข่งด้วยก็ตาม และเมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกเข้าไปอยู่ในกลุ่ม “อคติของกลุ่ม” จะเกิดขึ้น เรารู้สึกว่ากลุ่มเราดีกว่าใคร และใครอย่ามาให้ร้ายคนในกลุ่มเรา ขีดเส้นใต้ตรงนี้ไว้ก่อน แล้วอะไรล่ะครับจะทำให้คนดูอิน คือเราต้องทำให้คนดูมีอารมณ์เข้มข้น และอารมณ์เข้มข้นอะไรที่รายการใช้ล่ะครับ ก็คืออารมณ์โกรธ เช่น พี่ลูกเกดมาบอกว่าคริสน่ะไม่เก่ง อารมณ์ขุ่นเคือง เช่น ทีมลูกเกดได้เดรสยาวไปสองสามเมตรต้องเดินลงบันได ไม่ยุติธรรม อารมณ์หมั่นไส้ เหมือนที่บีคอยชมตัวเองบ่อยๆ อารมณ์เห็นใจ เหมือนที่คริสโดนเอาลูกทีมออกแล้วออกเล่า ความ Strong ของอารมณ์ ไม่เพียงทำให้คนดูสนใจ แต่คนดูจะรู้สึกอินว่าทำไมอีกกลุ่ม ต้องมาร้ายกับกลุ่มฉันแบบนี้ ทีมลูกบีพูดแรงใส่ทีมคริสเมื่อไหร่ ใครชอบคริสก็จะเข้าสู่โหมด #ทีมคริส แล้วเริ่มเคืองขึ้นมาทันทีที่ว่าทำไมต้องมาว่ากลุ่มของเราเสียๆ หายๆ ทีมลูกเกดเอาเด็กทีมบีออกทั้งๆ ที่น่าจะเอาเด็กทีมคริสออก ใครชอบบีก็จะเข้าสู่โหมด #ทีมบี ก็จะเคืองที่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลย ทำไมทำกับกลุ่มเราแบบนี้ พอเป็นทีม และพอทีมเกิดถูกรุกราน เราจะอิน แล้วเราจะมีอารมณ์ร่วม แล้วรายการมันจะดูน่าติดตามไปโดยไม่รู้ตัว อีกแง่มุมหนึ่งของ The Face คือ การสะท้อนสังคมการตีสองหน้า ที่มนุษย์นั้นรู้กันดีว่ามีในสังคม แต่ไม่เคยเห็นแบบชัดๆ ขนาดนี้ การกอดกันของคนเกลียดกัน การพูดดีต่อหน้า พูดร้ายลับหลังนั้น ล้วนแต่ทำให้คนดูรู้สึกอินได้ง่ายๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่า The Face นั้นใช้สคริปต์หรือเปล่า แต่ต้นฉบับของดั้งเดิมก็แรง และได้ข่าวว่าแรงกว่าของไทยด้วยซ้ำ แต่เอาเป็นว่าความแรงนั้นทำให้รายการดังได้ ทำให้คนดูเป็น #ทีมลูกเกด #ทีมบี #ทีมคริส ได้ ทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมได้ แค่นั้นก็ทำให้คนดูติดหนึบได้แล้วครับ อย่าลืมติดตามบทความจาก Psychola กันต่อนะครับ ปล. อาร์ทิเคิลแบบนี้นะ บล็อกอื่นก็ทำไม่ได้ ค้านท์ดูอิท ในเพจเฟซบุ๊คเหรอ อย่าหวังเลย! photo credit: https://www.facebook.com/thefaceth/ |
Archives
February 2016
Categories |