By MheeChola
วันนี้มีเรื่องเล่าจากงานวิจัยทางจิตวิทยามาให้อ่านกันนะ งานวิจัยนี้อิมพอร์ตมาไกลจากประเทศแคนาดาเลยล่ะ งานวิจัยน่าสนใจทำโดยทีมของคุณ Erskine และผองเพื่อน ทีมวิจัยนี้อยากรู้เกี่ยวกับเรื่องการออมเงิน, ประสบการณ์ทำงาน และลักษณะของกลุ่มเพื่อนของเด็กๆเยาวชน ที่มีอายุตั้งแต่ 12-24 ปี ในประเทศแคนาดา พวกเขาอยากรู้ว่า เจ้า3สิ่งที่บอกไปก่อนหน้านี้นั้นมันจะเกี่ยวข้องกันยังไงหรือเปล่าน้า ทีมวิจัยก็ไปสำรวจแล้วพบผลว่า เด็กที่มีกลุ่มเพื่อนที่มีลักษณะเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นกลุ่มที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต กลุ่มนี้มักจะออมเงินมากกว่าคนที่มีกลุ่มเพื่อนแบบอื่นๆ และก็จะออมเงินด้วยเหตุผลเพื่อการศึกษาในอนาคตของตนเองเยอะกว่าเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็พบว่าเด็กที่เคยทำงานมาแล้ว ทั้งคนที่ยังเรียนอยู่หรือไม่ได้เรียนแล้วก็ตาม พวกเขาก็มักจะออมเงินมากกว่าเด็กที่ยังไม่เคยทำงานเลย ส่วนเด็กที่ทำงาน Part-time ก็จะออมเงินเหมือนกันแต่จะออมเพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาให้ตนเองเท่านั้น ผลการวิจัยของทีมนี้ก็ทำให้ผมเห็นว่าถ้าผู้ใหญ่อยากสนับสนุนให้เด็กๆออมเงินกันอย่างจริงจัง ก็ควรจะส่งเสริมให้เด็กได้มีประสบการณ์การทำงานและคำนึงถึงตัวแปรด้านกลุ่มเพื่อนๆของคุณลูกคุณหลานของท่านเองด้วย เด็กๆเองก็ควรเลือกคบเพื่อนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ใฝ่ความสำเร็จบ้าง ส่วนเพื่อนเที่ยวเล่นสนุกสนานเฮฮาก็คบได้ไม่เสียหายอะไรหรอก แต่ลองคบเพื่อนทั้งสองกลุ่มไปพร้อมๆกันก็น่าจะดีต่อเด็กๆเองแหละ ทีนี้ขอเล่าประสบการณ์ตรงซึ่งมันเป็นไปตามการวิจัยนี้ด้วยล่ะ อย่างส่วนตัวผมเองก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาทำงานหาเงินและก็เก็บเงินจนตอนนี้มีเงินอยู่ในบัญชีเป็นแสนๆบาทแล้วล่ะ ผมก็เห็นตัวอย่างจากเพื่อนคนนี้นี่แหละ มันเลยทำให้ผมใส่ใจกับเรื่องเงินๆทองๆมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญพอๆกับเรื่องเรียนและเรื่องความรักเลยนะ จนปัจจุบันนี้ทำให้ตัวผม จากที่ไม่เคยออมเงินได้เลยกลับมาเป็นคนที่มีเงินออมส่วนตัวแล้วล่ะ เรื่องออมเงิน คุณก็คงเคยออมใช่ป่ะ หยอดกระปุกออมสิน ฝากเงินเข้าธนาคารอะไรแบบนั้นก็น่าจะเคยทำมากันบ้างแล้ว แต่มันเก็บไม่อยู่ใช่ไหมล่ะ ออมทีไร เงินหายทู๊กที เอาล่ะ เมื่อพูดถึงสาเหตุที่เราไม่ประสบความสำเร็จในการออมเงินเนี่ย ก็เลยนึกถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่ง เขาบอกไว้ว่าเป็นเพราะคนๆนั้น ขาดเป้าหมายในการออม (Goal) คือ คุณไม่รู้ว่าจะออมเงินไปทำไม เพื่ออะไรและเพื่อใคร แล้วทีนี้คุณจะบอกได้ยังไงว่ามันควรจะเรียกว่าประสบสำเร็จตอนไหนล่ะ จริงไหม อย่างน้อยคุณต้องมีเป้าหมายในใจว่า จะออมเพื่ออะไร เพราะ เป้าหมายในการออมนั้นมันจะทำให้การออมสามารถทำได้จริง เรื่องของอายุก็เกี่ยวข้องกับการออมนะ คนที่อายุต่างกันก็มีเป้าหมายในการออมต่างกันด้วย คือ เด็กที่มีอายุแก่กว่าก็จะบอกว่าตัวเองออมเพื่อความต้องการของตนในอนาคต ส่วนเด็กที่อายุน้อยกว่าก็จะบอกว่า ตัวเองออมเงินไปเพื่อซื้อสิ่งของอันใดอันหนึ่ง เช่น หนูจะเก็บเงินเอาไว้แล้วจะได้ซื้อ Playstation 3 จะได้ซื้อบาร์บี้ คนที่มีอายุเยอะกว่าก็จะคิดถึงเรื่องเงินออมมากกว่าคนที่อายุน้อย เพราะ พัฒนาการทางด้านความคิดจะไม่เหมือนกัน อย่างวัยรุ่นจะไม่ค่อยคิดหรอก เจ้าเรื่องเงินองเงินออมเนี่ย เพราะ วัยรุ่นน่ะจะไม่ค่อยคิดถึงอนาคตเท่าไรนัก สังเกตดูสิว่าวัยรุ่นชอบที่จะจ่ายมากกว่าเก็บออมเพื่ออนาคต จริงไหม ถ้าอย่างนั้นแล้ว เด็กๆลองมาออมเงินอย่างมีเป้าหมายกันดูไหมล่ะ แล้วจะรู้สึกภูมิใจแน่นอน เมื่อเห็นตัวเลขเงินเก็บในสมุดบัญชีที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นและที่สำคัญมันมาจากความอดทนและความตั้งใจของตัวเราเองนี่แหละ วันนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากจะเพียงแค่เตือนเด็กๆเอาไว้ในเรื่องเงินๆทองๆเท่านั้นเองแหละจ้า. ที่มา: จากงานวิจัยเรื่อง Peer crowds, work experience, and financial saving behaviour of young Canadians ของ Erskineและคณะ ดูได้ในเว็บ www.sciencedirect.com |
Archives
February 2016
Categories |